วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

10 อันดับประเทศน่าเที่ยวที่สุดในโลก ปี 2013

10 อันดับประเทศน่าเที่ยวที่สุดในโลก ปี 2013
อันดับที่ 1  ศรีลังกา

ดีที่สุดในด้าน : วัฒนธรรม, ความคุ้มค่า และยังมีธรรมชาติที่สวยงาม เพราะนักท่องเที่ยวยังไม่ไปเยี่ยมเยียนมากค่ะ
ศรีลังกาเป็นหนึ่งในประเทศแถบเอเชียที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุคลื่นยักษ์สึนามิซัดถล่มเมื่อ 8 ปีก่อน แถมยังบอบช้ำจากสงครามกลางเมืองที่กินเวลายืดเยื้อยาวนานถึง 26 ปี แต่ปัจจุบันปัญหาความขัดแย้งได้ยุติลงแล้ว ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนศรีลังกาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยวัฒนธรรม ธรรมชาติที่ยังคงสวยงาม และค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวไม่สูงมาก และยังสามารถเดินทางจากศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวอย่างกรุงเทพฯ ด้วยเที่ยวบินไป-กลับในราคาถูกสุดๆ อีกด้วยค่ะ (เริ่มต้นที่ 7 พันกว่าบาท สำหรับสายการบินศรีลังกา แอร์ไลนส์)
อันดับที่ 2  มอนเตเนโกร

ดีที่สุดในด้าน : กิจกรรม, การท่องเที่ยวแนวผจญภัย
มอนเตเนโกร เป็นประเทศในแถบยุโรปที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติงดงาม และอุดมสมบูรณ์มากค่ะ หนึ่งในสถานที่ที่ขึ้นชื่อก็คือ อ่าวโคตอร์ และบรรดาชายหาดที่มีคลื่นลมค่อนข้างแรง หากใครจะไปเยือนประเทศนี้ “โลนลี่ แพลนเน็ต” เขาแนะนำให้แพ็ครองเท้าสำหรับเดินป่าติดกระเป๋าไปพร้อมกับชุดว่ายน้ำด้วย เพราะป่าของมอนเตเนโกรมีความอุดมสมบูรณ์มาก ที่สำคัญ มีการเปิดเส้นทางใหม่สำหรับการเดินป่าและขี่จักรยานอย่างต่อเนื่อง ส่วนโครงสร้างพื้นฐานก็ได้รับการพัฒนาเป็นอย่างดี นักท่องเที่ยวจึงสามารถเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติได้มากขึ้นค่ะ คนรักธรรมชาติแพ็คกระเป๋าไปเที่ยวได้เลย
อันดับที่ 3  เกาหลีใต้
ดีที่สุดในด้าน : กิจกรรม, งานรื่นเริง
เกาหลีใต้ซุ่มพัฒนาตนเองให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่นในด้านกิจกรรมกลางแจ้ง หวังดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการตีกอล์ฟ เดินป่า  ตกปลา ฯลฯ และด้วยซีรีย์เกาหลีที่ระบาดหนักไปทั่วโลก พร้อมท่าเต้นสุดฮิต “ควบม้า” ในเพลงกังนัมสไตล์ ทำให้กลายเป็นเทรนด์ของศตวรรตนี้ และแน่นอนว่า นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกพร้อมแพ็คกระเป๋ามาเกาหลีอย่างไม่คิดมาก ด้วยการเดินทางที่แสนสะดวก และราคาประหยัด
อันดับที่ 4  เอกวาดอร์

ดีที่สุดในด้าน : อาหาร, กิจกรรม และยังไม่ค่อยได้ความรับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกมากนัก
ระบบโครงข่ายทางรถไฟในเอกวาดอร์กำลังจะถูกพลิกโฉมครั้งใหญ่ โดยจะมีเส้นทางใหม่ๆ เชื่อมต่อระหว่างเมืองหลวง (กีโต) และเมืองชายฝั่งที่ใหญ่ และมีประชากรมากที่สุดในประเทศอย่าง “กวายากิล” ทำให้การเดินทาง และการท่องเที่ยวระหว่างเมืองเป็นไปอย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ ยังมีทางรถไฟเชื่อมต่อระหว่างภูเขาไฟโกโตปักซี (สูง 5,900 เมตร ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในภูเขาไฟ ‘มีพลัง’ สูงที่สุดในโลก) และภูเขาเดวิล’ส โนส (หรือนาริซ เดล ดีอาโบล) ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องทางรถไฟที่สูงชัน และน่าหวาดเสียวสุดๆ อีกด้วย
อันดับที่ 5 สโลวัก หรือ สโลวาเกีย

ดีที่สุดในด้าน: วัฒนธรรม, การท่องเที่ยวแนวผจญภัย
หลังผ่านพ้นการปฏิวัติเวลเวตมานานกว่า 20 ปี  สโลวาเกียได้เดินหน้าพัฒนาประเทศจนเศรษฐกิจโตเร็วสุดๆ ก่อนเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ผลที่ปรากฏสโลวาเกียกลายเป็นอันดับต้นๆ ในกูเกิ้ลเมื่อมีผู้ค้นหาแพ็คเกจสกีราคาประหยัด และแพ็คเกจปาร์ตี้สละโสด (สำหรับว่าที่เจ้าบ่าว) ปัจจุบัน ภาคการท่องเที่ยวของสโลวาเกียพยายามล้มล้างภาพลักษณ์ของการเป็นแหล่งสกี และสถานที่เฉลิมฉลองราคาถูก แม้จะยังแก้ภาพลักษณ์ไม่สำเร็จแต่หลายฝ่ายยังคงไม่ละความพยายาม แต่ก็ยังไม่สายเกินไปสำหรับหนุ่มๆ ที่ต้องการเที่ยวแบบทิ้งทวนก่อนสละโสด >.<
อันดับที่ 6 หมู่เกาะโซโลมอน

ดีที่สุดในด้าน: การท่องเที่ยวแนวผจญภัย, กิจกรรม
ถ้าอยากรู้ว่า ในสมัยก่อนนั้น แถบทะเลแปซิฟิกมีสภาพเป็นอย่างไร ต้องไปเยือนหมู่เกาะโซโลมอน เพราะเมื่อก่อนเป็นอย่างไร ปัจจุบันก็ยังคงเป็นอย่างนั้น ลืมไปได้เลยสำหรับภาพรีสอร์ทหรูๆ และผู้คนที่พลุกพล่าน เพราะที่นั่นมีเพียงอีโครีสอร์ท และโฮมสเตย์ของคนในหมู่บ้านให้เข้าพัก ส่วนกิจกรรมที่ทำได้ไม่จำกัดก็คือ การดำน้ำตื้น ซึ่งสามารถดำได้โดยรอบบริเวณ ในอดีตนักท่องเที่ยวไม่นิยมเดินทางไปเยือนหมู่เกาะโซโลมอนเนื่องจาก เที่ยวบินมีจำกัด การเดินทางบนเกาะทำได้ยากลำบาก แต่ปัจจุบันการเดินทางไปเยือนที่นั่นทำได้สะดวก และง่ายดาย บ้านเมืองก็สงบสุข น่าไปเที่ยวอย่างมากเลยทีเดียว
อันดับที่ 7 ไอซ์แลนด์

ดีที่สุดในด้าน: กิจกรรม, ความคุ้มค่า
ไอซ์แลนด์ เป็นเกาะในมหาสมุทรแอตแลนติก ที่ใครมีโอกาสไปเยือนเป็นต้องตกหลุมรักในความงามของทัศนียภาพ, อาหารรสเลิศ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมนูปลาและเนื้อแกะ) และการต้อนรับอย่างจริงใจจากคนพื้นเมือง ที่สำคัญ เงินโครนาไอซ์แลนด์กำลังอ่อนค่าอย่างหนัก ทำให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปเยือนที่นั่นถูกลงกว่าเดิมมาก การเดินทางไปเยือนไอซ์แลนด์ในปีหน้าจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง และไม่ทำให้กระเป๋าตังส์แฟ่บอย่างแน่นอน
อันดับที่ 8  ตุรกี

ดีที่สุดในด้าน: อาหาร, วัฒนธรรม
ปัจจุบันนี้ การเดินทางท่องเที่ยวฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกีมีความสะดวกและง่ายดายมากยิ่งขึ้น หลังมีสายการบินโลว์คอสต์เปิดให้บริการบนเส้นทางดังกล่าว อีกทั้งยังมีรถโดยสารที่ให้บริการดีเยี่ยมทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเยือนสถานที่ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย และสิ่งที่ห้ามพลาดเลยก็คือ การสำรวจเมืองโบราณในจังหวัดมาร์ดิน, ชิมอาหารอร่อยๆ ในจังหวัดกาเซียนเต็ป, ชมซากปรักหักพังของศาสนสถาน  ”เกอเบกลี เทเป” ที่ตั้งอยู่ใกล้จังหวัดชานลึอูร์ฟา ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างทางศาสนา “เก่าแก่ที่สุดในโลก” (เท่าที่มีการค้นพบ) สุดท้ายก็คือ การเดินทางไกลบนเส้นทาง “อับราฮัม พาธ” ที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน ส่วนที่พักก็คือ โฮมสเตย์ของชาวบ้าน ซึ่งให้บรรยากาศที่ตรงกันข้ามกับการเดินทางไปเยือนแหล่งท่องเที่ยวตามแนวชายฝั่ง หรือย่านเมืองเก่าของอิสตันบูลโดยสิ้นเชิง
อันดับที่ 9  โดมินิกัน

ดีที่สุดในด้าน: กิจกรรม, ความคุ้มค่า, งานรื่นเริง
มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนโดมินิกันเพิ่มมากขึ้นถึง 8.4% เนื่องจากมีสายการบินเปิดเส้นทางบินสู่สนามบินนานาชาติทั้ง 8 แห่งเพิ่มมากขึ้น แถมบรรดาเรือสำราญยังระบุให้โดมินิกันเป็นจุดหมายปลายทางหลักที่ต้องจอดเทียบท่า ที่สำคัญเหล่านักท่องเที่ยวต่างเลือกที่จะมานอนอาบแดดริมชายหาดและเล่นกระดานโต้คลื่นที่โดมินิกันมากกว่าประเทศอื่นๆ ในแถบทะเลแคริบเบียนอีกด้วย
อันดับที่ 10  มาดากัสการ์

ดีที่สุดในด้าน: กิจกรรม, การผจญภัย
อย่าคิดว่า มาดากัสการ์มีแต่ในการ์ตูน ช่วงเวลานี้ก็คือโอกาสทองของนักท่องเที่ยวที่จะได้เดินทางไปเยือนก่อนที่มาดากัสการ์จะกลับมาผงาดบนแผนที่ท่องเที่ยว และโปรแกรมทัวร์อีกครั้ง แต่ก่อนไปควรเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมที่จะพบเจอกับความแปลกประหลาดมหัศจรรย์ ไม่ว่าจะเป็น สัตว์ ต้นไม้ หรือภูมิประเทศ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวแบบ “ไม่ธรรมดา” รับรองได้ว่ามาดากัสการ์จะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน

อ้างอิง
http://www.trueplookpanya.com/new/cms_detail/entertainment_api/2202268

รวม 10 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก


สิ่งมหัศจรรย์ของโลก 10. Banaue Rice Terraces


Banaue Rice Terraces
 จังหวัดอีฟูเกา ประเทศฟิลิปปินส์ คือ บันไดข้าวอายุกว่าพันปี ที่แกะสลักจากภูเขาทั้งลูก เพื่อใช้เป็นพื้นที่ปลูกข้าว สมัยก่อนนั้นการทำนาจะต้องใช้พื้นที่ราบ หากแต่พื้นที่ภูมิประเทศบริเวณนี้เต็มไปด้วยเขาสูงมีที่ราบน้อย ปริมาณน้ำและเนื้อที่ในการทำการเกษตรจึงเป็นปัญหา ด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน จึงได้คิดวิธีทำนาแบบขั้นบันไดขึ้นตามไหล่เขา โดยสกัดไหล่เขาให้เป็นชั้นๆ ลดหลั่นลงมาเป็นขั้นบันได เพื่อช่วยเพิ่มเนื้อที่ในการเพาะปลูก เป็นการรักษาหน้าดินไม่ให้ถูกชะล้างไป อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหาเรื่องน้ำทั้งในแง่การชลประทานโดยการเก็บกักน้ำฝน และยังช่วยป้องกันน้ำท่วมอีกด้วย โดยนาข้าวที่บานาเวนั้นเป็นภูเขาสูงอยู่เหนือน้ำทะเล 5,000 ฟุต นาข้าวแต่ละแห่งมีเนื้อที่ 10,360 ตารางกิโลเมตร และในปี ค.ศ. 1985 องค์การยูเนสโกได้จัดสถานที่นี้เป็นมรดกโลก


สิ่งมหัศจรรย์ของโลก 9. Sigiriya

Sigiriya เป็นเมืองใหญ่โบราณมหึมาของศรีลังกา สร้างขึ้นโดยพระเจ้ากัสสัปปะ ประมาณ ค.ศ. 470 โดยพระองค์ได้สร้างเมืองนี้ขึ้นเพื่อให้เป็นโลกศักดิ์สิทธ์ของพระองค์ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,300,000 ตาราง เมตร มีถนน มีระบบชลประทาน และสถานที่เกี่ยวกับศาสนามากมาย หนึ่งในนั้นคือถ้ำที่พระองค์ทรงสร้างเพื่อมอบแก่พุทธสาวกให้เป็นสถานปฏิบัติธรรม  แต่สิ่งที่น่าอัศจรรย์ที่สุด คือ ที่ใจกลางเมือง มีภูผาหินขนาดยักษ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของพระราชวังกับป้อมปราการอันน่าเกรงขาม และทิวทัศน์ตระการตารอบด้าน ฐานของป้อมที่ก่อด้วยอิฐ มีอายุมากกว่า 1,500 ปี และถือเป็นหนึ่งในมรดกโลกของศรีลังกา


สิ่งมหัศจรรย์ของโลก 8. Torun
เมือง ทอรูน เป็นเมืองทางตอนเหนือของประเทศโปแลนด์ ที่ยังคงสภาพเป็นเมืองเก่าสมัยกลาง และเป็นบ้านเกิดของ Nicolaus Copernicus นักดาราศาสตร์เจ้าของทฤษฏี “โลกเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาล” โดยเมือง Torun มีอายุถึง 1,100 ปี ซึ่งเป็นที่ตั้งถิ่นฐานเก่าของโปแลนด์ ความโดดเด่นอยู่เป็นเมืองศูนย์กลางการค้าและรวมสถานที่เก่าแก่มากมาย ที่สำคัญคงสภาพเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยแต่อย่างใด

สิ่งมหัศจรรย์ของโลก 7. Tower of Hercules

ประภาคารเฮอร์คิวลิส
 เป็นประภาคารและประตูสู่ ลา คอรุนญา เมืองท่าสำคัญ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของสเปน สร้างขึ้นโดยชาวโรมันในศตวรรษที่ 2 ก่อน คริสตกาล ผู้อาศัยในนิคมนี้ได้สร้างตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ไว้ และในไม่ช้าเมืองนี้ก็กลายเป็นเขตสำคัญของการค้าทางทะเล ส่วนหอเฮอร์คิวลิส เป็นประภาคารที่เปิดทำการต่อเนื่องมาเป็นเวลาเกือบ 1,900 ปี ซึ่งในบริเวณเดียวกันมีสวนประติมากรรม หินแกะสลักจากเหล็ก และสุสานมุสลิม ในยุคที่อาณาจักรโรมันยังเรืองอำนาจ ถือเป็นลักษณะเฉพาะตัวที่แสดงถึงประภาคารโบราณสมัยกรีก-โรมัน ซึ่งยังคงความสมบูรณ์ของสถาปัตยกรรมไว้


สิ่งมหัศจรรย์ของโลก 6. Ajanta Caves

ถ้ำอชันตา
 ได้ชื่อว่าเป็นวัดถ้ำในพุทธศาสนาที่งดงามและเก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่กลางเทือกเขาสลับซับซ้อน ในบริเวณฝั่งตะวันตกของที่ราบสูงเดกกัน (Deccan Plateau) การสร้างนั้นใช้วิธีขุดเจาะเข้าไปในหินบาซอลต์ (แกรนิตแข็ง) ก้อนเดียวจนเป็นวิหารขนาดใหญ่ โดยใช้เพียงสิ่วและค้อนเท่านั้น ภายในเวลาทั้งสิ้น 800 ปี เริ่มเจาะตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 3 จนกลายเป็นถ้ำมากกว่า 30 ถ้ำ เรียงตัวกันยาวหลายร้อยเมตรบนเชิงเขาสูงวงโค้งรูปพระจันทร์เสี้ยว ภายในมีวิหารขนาดใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยงานแกะสลักหิน ทั้งเจดีย์ พระพุทธรูป และเรื่องราวต่างๆ ในพุทธประวัติและชาดก โดยไม่ผุพังตามกาลเวลาแม้แต่น้อย ถ้ำอชันตาสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่ของสงฆ์ ให้แยกตัวอย่างสันโดษ แต่ภายหลังเมื่อพระพุทธศาสนาเสื่อมถอย สถานที่แห่งนี้ก็เริ่มหมดความสำคัญลง ขาดการดูแล และถูกทิ้งร้างไปในที่สุด จนกระทั่งเลือนหายไปจากความทรงจำของชาวอินเดีย จนกระทั่งถูกค้นพบอีกครั้งโดยกองทหารอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1819
สิ่งมหัศจรรย์ของโลก 5. Valley of Flowers
สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่

หุบเขาดอกไม้
 เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อยู่ในเทือกเขาหิมาลัย ใน รัฐ Uttaranchal ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย สวยงามเสมือนสวรรค์บนดินจนถูกนำมาบรรยายในวรรณคดีมาหลายศตวรรษ และปรากฏในศาสนาฮินดูมาช้านาน เพราะที่นั้นมีทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์เฮ็มกุน สถานที่ซึ่งพวกพราหมณ์ชอบนำน้ำจากทะเลสาบมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ทั้งยังได้รับความสนใจจากนักพฤษศาสตร์ เพราะเต็มไปด้วยพรรณไม้ ดอกไม้นานาพันธุ์ ด้วยความอุดมสมบูรณ์จึงถูกประกาศให้เป็นมรดกโลก และอุทยานแห่งชาติในปี ค.ศ. 1982
สิ่งมหัศจรรย์ของโลก 4. Metéora


เมทิโอร่า ตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศกรีซ เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวนิยมจำนวนมาก ด้วยความเป็นแปลกตรงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งสร้างอยู่บนก้อนหินขนาดสูงใหญ่ โดยอดีตสถานที่แห่งนึ้ถูกใช้เป็นที่พํานักของนักบวชคริสตนิกายออร์โธด็อกซ์ ผู้สร้างอารามไว้บนยอดเขา จากความเชื่อที่ว่าจะได้อยู่ใกล้ชิดกับสวรรค์และเป็นการง่ายต่อการป้องกันศาสนาอื่นมารุกรานอีกด้วย ด้วยความโดดเด่นของการสร้างสรรค์ของศิลปะแบบไบแซนไทน์ เมทิโอร่า จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จากยูเนสโกใน ปี ค.ศ. 1988
สิ่งมหัศจรรย์ของโลก 3. Bagan




พุกาม เมืองสำคัญแห่งพม่า เคยเป็นที่ตั้งอาณาจักรโบราณพุกามซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งแรกในประวัติศาสตร์พม่า ปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตมัณฑะเลย์ ดินแดน พุกาม แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ เขตเมืองเก่า (เขตที่ตั้งอาณาจักรพุกาม) เขตเมืองใหม่ (เขตที่อยู่อาศัยปัจจุบัน) และยองอู (เขตพาณิชยกรรมและเศรษฐกิจ) มีสนามบินชื่อ สนามบินยองอู เป็นสนามบินประจำเมือง รายได้หลักของเมืองคือ การท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาเยือนที่นี่เสมอ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากแถบเอเชียด้วยกัน เนื่องจากพุกามได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งทะเลเจดีย์ที่สวยงามและมีคุณค่า หรือ ดินแดนแห่งเจดีย์สี่พันองค์ เพราะในสมัยรุ่งเรืองเคยมีเจดีย์มากมายถึง 4,446 องค์ แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 2,217 องค์
สิ่งมหัศจรรย์ของโลก 2. Leptis Magna



เมืองเลปติส เมกนา
 ตั้งอยู่ทางตะวันออกของกรุงทริโปลี ประเทศลิเบีย ถูกขนามนามว่าเป็น อาณาจักรโรมันที่มีชื่อเสียงและงดงามมากที่สุดในแอฟริกา ซึ่งปัจจุบันยังคงสภาพสวยงามรุ่งโรจน์ เพราะอาณาจักรถูกสร้างด้วยหินปูน จึงทนต่อการเกิดแผ่นดินไหวนับครั้งไม่ถ้วน นอกจากความงดงามแล้ว จุดเด่นยังอยู่ที่ผังเมืองซึ่งถูกจัดวางอย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นถนน อาคารต่างๆ แสดงให้เห็นถึงความเจริญของ อาณาจักร เลปติส เมกนา ในช่วง ปี 111 ก่อนคริสต์กาล จนถึงช่วงที่รุ่งเรืองที่สุด ปี ค.ศ. 211 โดยกษัตริย์ Septimus Severus ต่อมาอาณาจักรเริ่มเสื่อมสลายลงในช่วงศตวรรษที่ 4 จนกระทั่งถูกค้นพบอีกครั้งโดยนักโบราณคดีชาวยุโรป และยังคงสภาพสมบูรณ์ไว้อย่างชัดเจน ยูเนสโกจึงประกาศให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1982


สิ่งมหัศจรรย์ของโลก 1.The Library of Celsus



ห้องสมุดเซลซุส ตั้งอยู่ที่เมืองเอเฟซุส ประเทศตุรกี เมืองเอเฟซุสเป็นถิ่นที่อยู่ของมนุษย์มาตั้งแต่สมัยปลายยุคโลหะ ในราวศตวรรษที่ 7 ก่อน คริสตกาล ภายใต้การปกครองของอาณาจักรลิเดีย ถือเป็นเมืองที่รุ่งเรืองและมั่งคั่งที่สุดในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และรุ่งเรืองถึงขีดสุดอีกครั้งภายใต้การปกครองของโรมัน เป็นเมืองใหญ่ที่สุด 1 ใน 5 ของจักรวรรดิโรมัน และใหญ่ที่สุดในเขตเอเชีย ห้องสมุดเซสซุส ก็เป็นหนึ่งในโบราณสถานที่หลงเหลืออยู่ในอาณาจักรแห่งนี้ แต่ปัจจุบันเหลือเฉพาะด้านหน้าของอาคารเท่านั้น ห้องสมุดเซลซุส เป็นอาคาร 2 ชั้น สร้างในปี ค.ศ. 114-117 โดย ดิเบริอุส จูลิอุส อาควิลา เพื่ออุทิศให้กับ ดิเบริอุส จูลิอุส เซลซุส ผู้เป็นบิดา โดยฝังโลงศพหินเอาไว้ที่ใต้หอสมุดและใช้เป็นแหล่งรวบรวมความรู้ แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ในอดีต ห้องสมุดแห่งนี้มีทางเข้า 3 ทาง ตรงประตูทางเข้ามีรูปแกะสลักเทพี 4 องค์ประดับอยู่ ได้แก่ เทพีแห่งปัญญา เทพีแห่งคุณธรรม เทพีแห่งความเฉลียวฉลาด และเทพีแห่งความรู้ รูปแกะสลักเหล่านี้เป็นองค์จำลอง องค์จริงนั้นนักโบราณคดีชาวออสเตรียได้นำกลับไปออสเตรีย และตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กรุงเวียนนา


อ้างอิง
                         www.siamrecorder.com

5 อันดับ สวนสนุกของโลก

5 อันดับ สวนสนุกของโลก
Busch Garden 

         ที่สุดของสถานที่แห่งความฝันที่เด็ก ๆ และผู้ใหญ่จากทั่วโลกเฝ้าฝันที่จะไป มันไม่ใช่โรงแรมหรูระดับ  5 ดาว ไม่ใช่ร้านอาหารชื่อดังที่มีเชฟระดับ มิเชลลิน สตาร์ แต่มันคือสวนสนุกแหล่งความบันเทิงที่พร้อมอ้าแขนต้อนรับสำหรับทุก ๆ คน และนี้คือ 5 อันดับ สุดยอดสวนสนุกของโลก ...


Disney

Disney 

         แค่ชื่อดิสนีย์ก็แทบจะบอกทุกสิ่งทุกอย่างของความเป็นสวนสนุกได้แล้ว เพราะดิสนีย์นั้นนับเป็นผู้บุกเบิกให้โลกได้รับรู้ถึงนิยามของคำว่าสวนสนุก โดยปัจจุบันมีสวนสนุกของดิสนีย์อยู่ 5 แห่ง คือ เมืองอันนาไฮม์แคลิฟอร์เนีย-สหรัฐอเมริกา ออร์แลนโด ฟลอริดา-สหรัฐอเมริกา โตเกียว-ประเทศญี่ปุ่น กรุงปารีส-ประเทศฝรั่งเศส และแห่งล่าสุดที่ประเทศฮ่องกง 

          ดิสนีย์มีเครื่องเล่นและการแสดงขบวนพาเหรดมากมาย หลายรอบ อีกทั้งมีโรงแรม ร้านค้าและภัตตาคาร ให้คุณเลือกใช้และอำนวยความสะดวกครบครับ และจะมีเครื่องเล่นใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มอยู่เสมอ



Discovery Cove

Discovery Cove 

          เปิดเมื่อปี 2543 ตั้งอยู่ที่ออร์แลนโดฟลอริดา เป็นสวนสนุกแบบสวนน้ำขนาดย่อม ซึ่งมีการวางแผนงานและการวางผังอย่างดีเยี่ยม โดยจำกัดนักท่องเที่ยวให้เข้าได้เพียงแค่รอบละ 1,000 คนเท่านั้น ซึ่งจากการวางผังและวางระบบมาอย่างดี ก็ทำให้นักท่องเที่ยวไม่ต้องเข้าคิวเป็นแถวยาว เพื่อรอเล่นเครื่องเล่น เพราะเมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาในบริเวณแล้ว นักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่มแต่ละคนจะมีไกด์คอยนำชมนำเที่ยวสวนน้ำแห่งนี้ 

          ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของ Sea World นักท่องเที่ยวสามารถว่ายน้ำจากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่งหรือจะนั่งเรือไปก็ได้แล้ว แต่ความปรารถนา จุดดึงดูดที่ทำให้นักท่องเที่ยวสนใจก็คือ การได้ว่ายน้ำเคียงข้างไปกับปลาโลมานั่นเอง


Cedar Point

Cedar Point 

          สวนสนุกแห่งนี้ตั้งอยู่ที่รัฐโอไฮโอสหรัฐอเมริก ที่นี่เน้นเครื่องเล่นประเภทรถไฟเหาะเป็นพิเศษ สำหรับผู้คนที่คลั่งไคล้ชื่นชอบความโลดโผนระทึกใจ ที่ซีคาร์ พ้อยท์แห่งนี้มีเครื่องเล่นถึง 68 ชนิด และรถไฟเหาะอีก 16 ชนิด เรียกว่ามีมากกว่าสวนสนุกอื่นใด ที่นี่มีเครื่องเล่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวก็คือ Op Thrill Dragster ซึ่งเป็นเครื่องเล่นแนวรถไฟเหาะที่สูงที่สุดและเคลื่อนตัวด้วยความเร็วสูง สุดในโลก โดยจุดสูงสุดอยู่เหนือพื้นดินถึง 420 ฟุต และความเร็วสูงสุดคือ 120 ไมล์ต่อชั่วโมง มีทั้งการเคลื่อนตัวแบบตกติ่งลงจากเบื้องสูง และหมุนม้วนแบบควง 

          ซีคาร์ พ้อยท์ ยังมีเครื่องเล่นชวนหวาดเสียวอีกมากมาย และมีสถานที่เครื่องเล่นบริการอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการให้อะ ครีนาลีนหลั่งเกินไปอีกด้วย


Busch Garden

Busch Garden 

          เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2502 ตั้งอยู่ในเมืองแทมปา รัฐฟลอริดา จุดเด่นของที่นี่คือความเป็นสวนสนุกที่รวมสวนสัตว์เข้าไว้ด้วยกัน บรรยากาศของที่นี่เน้นความเป็นธรรมชาติ มีพื้นที่ป่าโปร่งที่นักท่องเที่ยวสามารถชมความเป็นอยู่ของชีวิตสัตว์ได้ ไม่ว่าจะเป็น ช้าง ม้าลาย แรด กวาง ซึ่งอาศัยอยู่มากมายในพื้นที่กว่า 29 เอเคอร์ ให้บรรยากาศแก่นักท่องเที่ยวเสมือนอยู่ในทุ่งหญ้าแอฟริกา 

          และสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่นี่อีกอย่างหนึ่งก็คือบ้านผีสิง 4 มิติ (Haunted Lighthouse 4D Theater) ซึ่งเป็นโรงภาพยนตร์ 3 มิติที่มีเอ็ฟเฟ็กต์พิเศษเพิ่มความสมจริงขึ้นมาอีกมิติหนึ่ง อาทิ ลมระเบิดและฝอยน้ำ ที่ฉีดพวยพุ่งออกมาจากเก้าอี้นั่งของผู้ชมทุก ๆ ที่นั่งอย่างไม่กลัวผู้ชมหัวใจจะวายนั่นเอง


Alton Towers


Alton Towers

          ไม่น่าเชื่อว่าสวนสนุกอันดับ 1 ของโลก จะมาอยู่ที่เมืองผู้ดีแห่งนี้ นั่นคือเมืองสแตฟฟอร์ตไซร์ ที่อยู่ห่างจากกรุงลอนดอนไปทางเหนือประมาณ 2 ชั่วโมง อัลตั้น ทวาเวอร์ มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในเรื่องของเครื่องเล่นประเภทรถไฟเหาะทั้งหลาย ซึ่งเป็นแม่เหล็กสำคัญที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยว ทั้งผู้ที่ไปเที่ยวแบบครอบครัวและผู้ที่แสวงหาความมันบนความระทึกใจ ใคร ๆ ก็อยากไปลองเครื่องเล่นใหม่ของที่นี่ที่มีชื่อว่า Black Hole, Submission และ Ripsaw


อ้างอิง
http://blog.eduzones.com/rangsit/52310